บรรยายที่โรงเรียนสาธิตสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
February 10, 2023“หางโจว” สวรรค์บนดิน
February 27, 2023โครงการทัศนศึกษาเชิงปฏิบัติการ “Young BRI 2023” ซึ่งจัดโดยสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย สมาคมนักเรียนไทย-จีน และศูนย์วัฒนธรรมจีน ณ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์ 2566 มีเยาวชนไทยเข้าร่วมกว่า 60 ท่าน กิจกรรมมีจุดประสงค์เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้วัฒนธรรมจีน เศรษฐกิจจีน รวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ของจีน บวกกับการทัศนศึกษา ภายใต้แนวคิด “Belt Road Initiative” หรือ “ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่เป็นประโยชน์สำหรับเยาวชนไทยในภายภาคหน้า และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนไทย-จีน
ในพิธีเปิด นายสรวง สิทธิสมาน นายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน กล่าวต้อนรับนักศึกษาเยาวชนไทยผู้เข้าร่วมโครงการ แนะนำที่มาและวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยกล่าวว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ถือว่าเป็น “เยาวชนของหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ซึ่งในภายภาคหน้าก็จะเติบโตเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-จีน ซึ่งตรงกับอุดมการณ์ของสมาคมฯ ที่ว่า “เราคืออนาคตความสัมพันธ์ไทย-จีน” อีกทั้งกิจกรรมครั้งนี้จะช่วยให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้เข้าใจถึง วัฒนธรรม เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมจีนที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน
ด้านคุณ Fan Xuewei อุปทูตประจําสถานเอกอัครราชทูตจีนประจําประเทศไทย ได้กล่าวเปิดงาน โดยแนะนำประวัติความเป็นมาและประโยชน์ของ BRI ซึ่งได้ดำเนินการมากว่า 10 ปีแล้ว ครอบคลุมทั้งการค้าขายและการพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามเศรษฐกิจ BCG Model รวมถึงผลประโยชน์ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้ออำนวยต่อห่วงโซ่การผลิต ท่านอุปทูตฯ ยังกล่าวว่า เยาวชนเป็นอนาคตและความหวังของการแลกเปลี่ยนระหว่างทั้งสองประเทศ หวังว่าเยาวชนไทยจะสามารถเพิ่มพูนความเข้าใจในวัฒนธรรมจีน และ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นผ่านกิจกรรมใน 2 วันนี้ อีกทั้ง กระตือรือร้นที่จะสนใจการพัฒนาใหม่ๆ ของจีน แนะนำผลงานความร่วมมือระหว่างไทย-จีนให้คนรอบข้างได้รับรู้ และร่วมเป็นพลังสำคัญที่ส่งต่อ “จีน-ไทยครอบครัวเดียวกัน” จากรุ่นสู่รุ่น
ด้านคุณ Que Xiaohua ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ได้กล่าวแสดงความยินดีในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ โดยหวังว่าศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีนจะแสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและยกระดับความสัมพันธ์คู่หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทย-จีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีนได้เตรียมกิจกรรมเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะการเขียนพู่กันจีน การวาดภาพจีน การชงชา กู่เจิงและการห่อเกี๊ยวแบบจีน ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสกับวัฒนธรรมจีนอย่างใกล้ชิดโดยไม่ได้ไปไกลถึงประเทศจีน
ระหว่างกิจกรรมมีการแบ่งกลุ่มนักเรียนเป็น 5 กลุ่ม เวียนตาม 5 ฐานกิจกรรม ทั้งการชงชาสไตล์มังกร อ้อนไปด้วยเสียงกู่เจิง ระเริงร่ายพู่กันจีน สัมผัสการทำเกี๊ยว ฟินไปด้วยภาพวาดลายจีน จบท้ายด้วยการพาทัวร์หอสมุดสุดอลังที่เคยปรากฏบนจอสีมาแล้วหลายเรื่อง
ในช่วงบ่ายของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 คณะได้เปลี่ยนบรรยากาศมาศึกษาดูงานด้านเทคโนโลยี กับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ร่วมกิจกรรมได้รู้จักกับเทคโนโลยี 5G แห่งโลกอนาคต สัมผัสความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจีน อาทิ HUAWEI Cloud, HUAWEI Smart Campus และ HUAWEI 5G Technology
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 คุณ Huangfu Zhiqiang และคุณ Li Ye ผู้แทนสถานทูตฯ รวมถึงผู้แทนจากสมาคมฯ พร้อมนักเรียนกว่า 70 ชีวิต มุ่งหน้าสู่นิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าในต่างประเทศของจีนชุดแรก ปัจจุบันนับเป็นหนึ่งในฐานการผลิตส่งออกของอุตสาหกรรมจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โอกาสนี้เยาวชนไทยได้ร่วมรับฟังประวัติการพัฒนาที่สำคัญของนิคมแห่งนี้ ทั้งยังทราบได้ว่าปัจจุบันมีนิคมฯได้ดึงดูดบริษัทรวมถึงนักลงทุนจีนเข้ามาได้แล้วราว 200 บริษัท และเรียนรู้ข้อมูลน่าสนใจมากมายจากวิทยากรประจำนิคมฯ หลังจากได้ร่วมฟังบรรยายแล้ว เยาวชนไทยได้ระดมสมองและสอบถามความรู้ใหม่ ๆ ที่เข้ากับยุคสมัย
ในช่วงบ่าย คณะได้เข้าดูงาน ณ บริษัท Runnergy GV Technology ประจำประเทศไทยซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชั้นนำด้านแผงแบตเตอรี่พลังงานแสงอาทิตย์จากประเทศจีน ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในการผลิตแผงรับพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร จากนั้นได้เข้าเยี่ยมชม บริษัท CONCH Building Material ประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสมัยใหม่ เช่น กรอบหน้าต่างประตูอลูมิเนียมเกรดคุณภาพสูง โครงการของบริษัทในไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งได้นำพาบริษัทให้ก้าวเดินสู่หนทางการพัฒนาสู่สากล
ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่กิจกรรมครั้งนี้ก็ทำให้เยาวชนไทยได้เปิดโลกทัศน์ เพิ่มพูนความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ล้ำค่าซึ่งกันละกัน แม้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของจีนนั้น เป็นสิ่งที่นักเรียนสามารถหาข้อมูลได้ทั่วไป แต่จากประสบการณ์ตรงใน 2 วันนี้ ทำให้เยาวชนได้สัมผัสกับโอกาสการพัฒนาและโลกแห่งอนาคต เชื่อว่าผู้ร่วมกิจกรรมทุกคน จะได้แรงบันดาลใจไปสานต่อ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของตนเอง” คว้าโอกาส เดินตามฝัน ไปสู่ความสำเร็จของชีวิต และในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” คงพาให้เราได้พบกันอีกครั้ง